บทที่ 23 เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย (50%)

คล้อยหลังคณานับ จักรพรรดินั่งทอดถอนใจอยู่พักใหญ่ ถึงได้เรียกให้กาจพลที่สืบเรื่องอยู่ทางกรุงเทพเข้ามาพบในห้องทำงาน ก่อนจะออกคำสั่งให้อีกฝ่ายไปสืบเรื่องของนลินนิภา พัดชา และบูรณา มาโดยละเอียด หาข้อมูลของทั้งสามคนมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็ลุกจากโซฟาเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ แล้วนั่งลงสะสางงานที่คั่งค้างมาหลายวันอย่างบ้าคลั่ง เพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน

เข้าสู่วันที่สามของการไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อและแม่ที่เพิ่งจากไป ด้วยการถวายภัตตาหารเพลพระ และปล่อยนกปล่อยปลา โดยมีศรีจิตตราขันอาสาไปเป็นเพื่อน จากนั้นอีกฝ่ายก็ลากเธอไปส่องผู้ชายแถวมหา’ลัยแห่งหนึ่ง เพราะไม่อยากให้บูรณิมามีเวลาอยู่คนเดียวมากเกินไป

กว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ หลังอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ คนที่เหลือตัวคนเดียวในบ้านก็เดินลงมายังชั้นล่าง มุ่งตรงไปยังห้องครัว เพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เที่ยงจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทำให้อาการโรคกระเพาะกำเริบ ทั้งปวดและแสบจนแทบหน้ามืด เดิมทีนักเขียนผู้มักหมกมุ่นอยู่แต่กับนิยายก็กินข้าวไม่เป็นเวลาจนเป็นกระเพาะอยู่แล้ว ครั้นพ่อกับแม่มาด่วนจากไปทำให้เธอพลอยกินอะไรไม่ลง สุดท้ายก็เลยอาการกำเริบ

นำอาหารในตู้เย็นออกมาใส่ถ้วย ตักข้าวที่หุงไว้ตั้งแต่ตอนเช้าใส่จาน โดยไม่สนใจที่จะอุ่น เพราะทนอาการแสบท้องไม่ไหวอีกต่อไป จากนั้นก็ทรุดกายลงนั่ง เลื่อนจานข้าวมาวางตรงหน้า

ข้าวคำแรกที่เข้าปากทำให้บูรณิมาน้ำตาซึม ที่นั่งฝั่งตรงข้ามมันเคยมีพ่อกับแม่ แต่มาบัดนี้กลับว่างเปล่า เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ กะพริบตาขับไล่ความอ่อนแอ แล้วกลืนข้าวลงคออย่างยากลำบาก ก่อนเสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น

Rrrrrrrrr…

มือเรียวฉวยโทรศัพท์ที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นเบอร์ตำรวจเจ้าของคดีที่แม่เธอตกเป็นจำเลย ก่อนจะรีบกดรับสาย แล้วกรอกเสียงลงไปอย่างสุภาพ

“สวัสดีค่ะ สารวัตรอาคม”

“สวัสดีครับคุณบูรณิมา ขอโทษนะครับที่ผมโทรมารบกวนในเวลาดึกดื่น พอดีว่ามีเรื่องด่วนจริงๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะ สารวัตรมีอะไรว่ามาได้เลยค่ะ”

“ผมอยากจะสอบถามว่าช่วงนี้คุณได้ติดต่อกับคุณนลินนิภาบ้างไหมครับ”

คำถามของนายตำรวจทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น

“ฉันเพิ่งคุยกับนนนี่ไปเมื่อไม่กี่วันเองค่ะ แต่เมื่อเช้าพยายามโทรหาหลายรอบนนนี่ก็ไม่รับสาย”

“งั้นถ้าเธอติดต่อมา รบกวนแจ้งผมด่วนนะครับ”

“เอ่อ…มีอะไรงั้นเหรอคะ”

“ทางตำรวจสืบทราบมาว่าคุณนลินนิภาอาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของคุณนีรา เพราะตรวจสอบเส้นทางการเงินของนลินนิภาแล้วพบว่าเธอมีการโอนเงินเข้าบัญชีของแม่คุณหลายครั้ง และในวันเกิดเหตุคนที่แม่คุณโทรคุยด้วยเป็นคนสุดท้ายคือนลินนิภา”

“หมายความว่านนนี่ ‘อาจ’ เป็นคนบงการให้แม่ฉันลงมือฆ่าพี่นีรางั้นเหรอคะ”

หลังจากอึ้งหนัก ในที่สุดเธอก็ควานหาเสียงตัวเองเจอ

“ทำนองนั้นครับ”

“แล้วข่าวที่ออกมาก่อนหน้า ว่าคุณพัดชาอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดล่ะคะ”

“พัดชาก็ยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยครับ เรายังไม่ได้ตัดใครออกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ของคุณที่ตายไปแล้ว พัดชา และนลินนิภา ทั้งสามคนยังคงเป็นผู้ต้องสงสัย”

“…”

“ยังไงถ้าคุณนลินนิภาติดต่อมาแจ้งผมด่วนนะครับ”

“ได้ค่ะ”

หลังจากวางสายด้วยสภาพอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก บูรณิมาก็นั่งตัวแข็งทื่ออยู่พักใหญ่ เธอตั้งใจจะเก็บจานข้าว เพราะความหิวได้อันตรธานไปหมดแล้ว หากแต่ท้องกลับร้องประท้วงเสียงดังเพราะอาการปวดแสบจนต้องหยีหน้าด้วยความทรมาน สุดท้ายบูรณิมาก็กล้ำกลืนตักข้าวเข้าปากทั้งน้ำตา เคี้ยวข้าวไปร้องไห้ไป วันนี้เธอได้รู้ซึ้งแล้วว่าการกินข้าวคลุกน้ำตานั้นมันทรมานแสนสาหัสมากแค่ไหน

“ว่าไงมึง?”

จอมพลยังคงรับสายเขาด้วยน้ำคำห้วนๆ เฉกเช่นทุกครั้งที่ติดต่อไปหา แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก จะมีช่วงนี้ที่คดีเรื่องการฆาตกรรมนีรา และคดีที่ลูกชายของจอมพลถูกลอบทำร้าย มีผู้ต้องสงสัยเป็นคนคนเดียวกัน นั่นก็คือพัดชา เรื่องนี้ทำให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกันมากขึ้น เพราะเอาจริงจักรพรรดิก็ไม่ได้อยากนับคนที่เคยควงนีราเป็นเพื่อนนักหรอก แต่ในสถานการณ์เช่นนี้จับมือกับอีกฝ่ายไว้ถือเป็นการดี ถึงแม้ไอ้หมอนั่นจะปากหมาไปหน่อย แต่สัมผัสได้ว่าเป็นคนจริงใจ

“ได้ข่าวว่ามึงสนิทกับนลินนิภาใช่ไหม?”

“อือ ก็ถือว่าสนิทแหละ ว่าแต่…มึงมีอะไรหรือเปล่า ถึงได้ถามถึงเด็กนั่น”

เจ้าพ่อหนุ่มวกถามกลับ ไม่ขยายความว่าสนิทกับนลินนิภาอย่างไร เพราะเดาว่าถ้าจักรพรรดิจั่วหัวมาขนาดนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายคงสืบเรื่องนลินนิภามาแล้วไม่มากก็น้อย

“มึงยังไม่รู้ข่าวเหรอ?”

แน่นอนว่าเรื่องที่นลินนิภาตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ตำรวจยังไม่ได้ตีแผ่ และยังไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมา แต่ที่จักรพรรดิคิดว่าจอมพลอาจรู้เรื่องนี้เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับคดีที่ลูกชายอีกฝ่ายถูกทำร้าย ไม่ใช่ในแง่ที่ว่าลูกชายของจอมพลถูกนลินนิภาลอบทำร้าย แต่หมายถึงผู้ต้องสงสัยหลักในคดีของน้องกัปตันซึ่งก็คือพัดชา กำลังจะหลุดพ้นข้อกล่าวหาในคดีฆาตกรรมนีรา และอาจหมายรวมไปถึงหลุดจากคดีลอบทำร้ายน้องกัปตัน

“กูไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน”

คำพูดคำจาขวานผ่าซากสมเป็นจอมพลเสียจริง

“พัดชาอาจหลุดพ้นข้อกล่าวหาในคดีฆาตกรรมนีรา ศาลอาจสั่งยกฟ้อง”

หลังจากทำท่าหมั่นไส้ใส่โทรศัพท์ จักรพรรดิก็เอ่ยออกมา

“กูรู้แล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าพัดชาอาจหลุดจากคดีลอบทำร้ายลูกกูด้วย”

พับผ่าสิวะ! แล้วมันยังมีหน้ามาพูดว่าไม่ชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน

“นลินนิภาคือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยว่าจะฆ่านีรา”

ประเด็นใหม่ที่ถูกจักรพรรดิโพล่งขึ้น เรียกเสียงอุทานจากปลายสาย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป